Grab เป็นแอปพลิเคชั่นทางด้านการขนส่ง หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ แอปฯ เรียกรถ ที่ถือได้ว่าเป็นอันดับ #1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากเรียกรถเพื่อใช้สำหรับเดินทางแล้ว จะมีบริการเรียกรถสำหรับใช้ส่งของและส่งอาหารจากร้านอาหารต่างๆด้วย
เชื่อว่าคงมีคนไทยน้อยคนที่จะไม่รู้จัก Grab เพราะทุกวันนี้มองไปที่ไหนบนท้องถนนก็จะพบรถมอเตอร์ไซต์ที่ใส่เสื้อเขียวของ Grab สักคันสองคันแน่นอน (เฉพาะในกรุงเทพกับปริมณฑลนะ จังหวัดอื่นผมไม่รู้) ผมเองก็ใช้บริการของแอปฯ นี้มาค่อนข้างเยอะ หลายๆอย่างมันทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเดินออกจากซอยไกล ๆ เพื่อไปเรียกพี่วิน บางครั้งเดินทางไม่ไกลมากเราก็เรียก Grab bike แทนที่จะขึ้นรถเมล์อันแสนจะห่วยของเมืองหลวง ทีนี้พอใช้บริการมากๆ เราก็ต้องคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด แต่มันก็ยังเจอปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งมักจะเป็นปัญหาที่เจอบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่ได้รับการแก้ไขสักที บางครั้งเรารายงานผ่านแอปฯไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการติดต่อกลับมาเลย ผมเลยได้รวบรวมปัญหาจากมุมมองของ user ที่ได้พบเจอมาบ่อย ๆ มาให้ดูกันครับ
1. ปักหมุดแล้วไม่ตรงกับที่คนขับเห็น
อันนี้น่าจะเป็นปัญหาที่เจอบ่อยที่สุด เราปักหมุดลงในแผนที่แล้ว แต่ทำไมคนขับถึงยังไปผิดได้ตลอด พอลองถามดูก็เหมือนว่าหมุดในแผนที่ของคนขับมันไม่ได้ตรงกับของเราเป๊ะๆ (แต่ก็ใกล้เคียง) ซึ่งก็จะทำให้เดินทางได้ช้าเพราะมัวแต่จะหากันอยู่ว่าอยู่ตรงไหน
2. คนขับอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก
อันนี้ก็ต้องยอมรับกันสักนิดว่าบางคนเขาก็ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ เพราะต่อให้ใช้ UI ของแอปฯ เป็นภาษาไทยแล้ว แต่ชื่อสถานที่ในแผนที่ บางที่ก็เป็นภาษาอังกฤษ ครั้งนึงเคยสงสัยว่าทำไมคนขับต้องถามตลอดว่าอยู่ตรงไหน เลยถามกลับไปว่าในแอปฯมันไม่ได้บอกเหรอ เขาถึงตอบกลับมาว่าอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ผมเดาว่าตัวแอปฯจะเลือกให้ user ได้เจอกับคนขับในละแวกที่ไม่ไกลมากอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นปัญหานี้จะหนักกว่าเดิมอีก เพราะถ้าคนขับอยู่ไกลมากก็ต้องอธิบายเส้นทางกันยาวแน่ๆ ( user เห็นว่าคนขับอยู่ตรงไหน)
3. คนขับไปรับผิดที่ ทั้ง ๆ ที่มีแผนที่บอก
อันนี้ที่เคยเจอถือว่าเป็น error ของทางคนขับเลย ไม่แน่ใจว่าเพราะรีบกดรับงานแล้วอ่านสถานที่ผิด หรือว่าเผลอรับงาน ถ้าเห็นว่าคนขับไปผิดทิศทางนี่มั่นใจได้เลยว่าไปผิดที่แน่ๆ ผมก็จะกดยกเลิกเลย ไม่งั้นเสียเวลาทั้งสองฝ่าย
4 คนขับไม่มีความรู้ในการใช้งานแอพ
ก่อนที่จะให้คนขับออกมาใช้ทราบว่าต้องมีการอบรมคนขับถึงเรื่องการใช้งานแอปฯมาแล้วบ้าง (หรือเปล่า?) ไม่งั้นก็ควรที่จะจัดสอบให้ผ่านตามเกณฑ์ของแอปฯก่อนที่จะให้คนขับรับงานได้
5. คนขับกดว่าถึงแล้วทั้งๆที่ยังไม่ถึงจุดของผู้โดยสาร
ปกติมันควรจะขึ้นให้ว่าคนขับมาถึงแล้วก็ต่อเมื่อ location ของคนขับมาแถวที่ผู้โดยสารอยู่จริงๆ แต่ผมเคยเจอที่แบบว่ายังมาไม่ถึง ยังอยู่ไกล แต่ก็ขึ้นมาบอกว่าคนขับมาถึงแล้ว ดูในแผนที่คือยังอยู่อีกไกลซึ่งก็ต้องรอไปอีกนานเลยกว่าจะมาถึง แล้วตรงนี้ก็ไม่กล้ากดยกเลิกด้วยเพราะว่าไม่รู้ว่าทาง user จะโดนแบนอะไรหรือเปล่า user ก็ไม่ได้ใช้ส่วนลดที่ได้จากการที่คนขับมาถึงช้าด้วย (อันนี้ผมไม่รู้ว่าแอปฯมันจะแจ้งเองหรือคนขับต้องกดว่าถึงจุดนัดหมายแล้ว)
6. หมวกกันน็อคเน่า.
หมวกกันน็อคของคนขับบางคนสภาพเน่ามาก ๆ เหม็น จะไม่ใส่ก็ไม่ได้เดี๋ยวโดนตำรวจเรียก แล้วนี่ก็ยังไม่เคยเจอคนขับที่มีหมวกคลุมหัวแบบใช้แล้วทิ้งให้ใส่ก่อนที่จะใส่หมวกกันน็อคเลย (แบบหมวกอาบน้ำที่แถมตามโรงแรม)
7. ป้ายทะเบียนของมอเตอร์ไซต์ไม่ตรงกับที่แจ้งในแอปฯ
เคยยืนเถียงกับคนขับว่าเรายืนรอนานแล้ว คนขับก็เถียงว่าเขามาถึงนานแล้วเหมือนกัน ครั้งนั้นป้ายทะเบียนมอเตอร์ไซต์คนขับไม่ตรงกับที่ขึ้นในแอพฯ คนขับก็ไม่ควรคาดหวังว่า user จะรู้นะถ้าไม่โทรบอก ซึ่งกรณีนี้เจอมาแล้วบ่อย หลายครั้งมากๆ grab ควรจะจัดการให้เด็ดขาด เพราะว่าถ้าเกิดมีปัญหาอะไรกับ user เช่นเกิดอุบัติเหตุ คนขับอาจจะอ้างได้ว่าเราไปขึ้นรถคันอื่นที่ไม่ใช่ Grab
8. ระบบการเติมเงินมีปัญหา
บางครั้งถ้าจะใช้โปรฯส่วนลดบางอย่าง จะต้องใช้ Grab pay หรือ Grab wallet อะไรนี่แหล่ะ แล้วตอนช่วงแรก ๆ มันมีปัญหามากๆ เติมเงินไปแล้วหาย พอแจ้งไปก็กลายเป็นว่ามาโทษ user อีก หลังจากนั้นก็ไม่ได้เติมเงินเข้าทีละเยอะๆเลย จะเติมแค่เท่าที่จะใช้ในแต่ละครั้ง แต่ตอนนี้มีระบบหักจากบัตรแล้วก็โอเคอยู่
9. ได้อาหารไม่ครบ รายงานไปก็แล้วเงียบหาย
อันนี้น่าโมโห(หิว)มากๆ สั่งอาหารแล้วได้รายการอาหารไม่ครบ ซึ่งมันก็เป็นความผิดของเราเองส่วนนึงที่ไม่ตรวจสอบให้ดีตั้งแต่ตอนที่มาส่ง มาเห็นอีกทีก็หลังจากกินเสร็๗แล้วว่ารายการมันไม่ครบ พอรายงานผ่านเว็บไปก็เงียบหาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการติดต่อกลับมาจาก Grab
ทั้งหมดนี้ลิสต์มาจากที่ผมเจอคนเดียวนะครับ ใครที่เจออะไรนอกเหนือจากนี้เม้นต์บอกกันได้ เผื่อผมจะได้เพิ่มเติมลงในนี้ให้ เผื่อว่าสักวันนึง Grab จะผ่านเข้ามาอ่านเพราะที่ผ่านมารายงานอะไรไปก็เงียบหายตลอด